การปลูกกุหลาบนั้นขึ้นอยู่กับหลายๆปัจจัย ที่มีส่วนสําคัญในการช่วยให้ต้นกุหลาบมีสุขภาพดี และผลิดอกได้อย่างสวยงามตลอดเวลา แม้มือใหม่ปลูกกุหลาบ ถ้าเข้าใจ 6 เรื่องนี้ ก็ปลูกกุหลาบได้สวยงาม
1. คุณภาพของดินที่ใช้ปลูกกุหลาบ
- ดินที่เหมาะสมสำหรับการปลูกกุหลาบ ควรเป็นดินร่วน (ถ้าไม่มีก็เหนียวปนทรายได้) เพราะช่วยให้ระบายน้ําได้ดี และยังรักษาความชื้นไว้ได้อีกด้วย
- ในดินควรมีธาตุอาหารจําเป็นต่างๆ ในปริมาณสูง ซึ่งจะช่วยให้กุหลาบเจริญเติบโตได้ดี ดังนั้นวัสดุเพาะที่ใช้ผสมดิน จึงใช้ ดิน ขุยมะพร้าวและมูลสัตว์ เป็นวัสดุเพาะหลัก ซึ่งใช้ได้กับการปลูกกุหลาบในกระถาง และปลูกลงดิน สามารถอ่านเทคนิคการปรุงดินเพิ่มเติมได้จากลิงค์นี้
2. การถ่ายเทอากาศและแสงแดด
- พื้นที่เพาะปลูกกุหลาบควรมีการถ่ายเทอากาศที่ดี ถ้าสามารถโดนแดดได้ 8 ชั่วโมงต่อวันจะดีมากๆ (เป็นเรื่องปกติของไม้ดอก ที่ต้องการแสงแดดมากกว่าต้นไม้ประเภทอื่น) เพราะมีความจําเป็นอย่างยิ่งต่อกระบวนการสังเคราะห์แสง และเพิ่มความแข็งแรงให้ต้นกุหลาบโดยรวม
- โดยเฉพาะแสงแดดในตอนเช้ามีอิทธิพลต่อการเจริญเติบโตของกุหลาบอย่างมาก
3. ธาตุอาหารสำหรับกุหลาบ
- กุหลาบต้องการธาตุอาหารอย่างสม่ำเสมอเพื่อเลี้ยงลำต้น ใบ ดอก (ให้คราวละน้อยๆ แต่บ่อยๆจะดีกว่า) เพื่อรักษาวัฏจักรการเจริญเติบโตและออกดอกบานสะพรั่งทั้งปี
- ควรให้ปุ๋ยอินทรีย์ สลับกับปุ๋ยเคมีบ้างเป็นครั้งคราว จะช่วยให้กุหลาบได้รับอาหารที่สมดุล สนับสนุนให้ต้นกุหลาบเจริญเติบโตที่ดีที่สุด
สำหรับปุ๋ยอินทรีย์ แนะนำให้ใช้จุลินทรีย์ธาตุอาหารพืช ขวดสีเขียวของอีเรฟไทย (erev) ซึ่งฟาร์มกุหลาบใหญ่ๆ และกลุ่มคนรักกุหลาบใช้กันทั่วประเทศ ไม่ใช่แค่ใช้เป็นประจำนะ แต่ยังกลายเป็นกระแสที่แนะนำต่อๆกันไปอีกด้วย
4. การดูแลป้องกันและกําจัดโรคและแมลงศัตรูพืชในกุหลาบ
- กุหลาบมักเป็นต้นไม้ที่แมลงศัตรูชอบ เช่น เพลี้ยแป้ง เพลี้ยไฟ ไรแดง และเชื้อราต่างๆ จึงจําเป็นต้องเฝ้าระวังและป้องกันอย่างสม่ำเสมอ
- การตรวจตราและวิธีป้องกันเชิงรุกมีความจําเป็นอย่างยิ่งในการลดความเสียหายที่อาจเกิดจากแมลงศัตรูพืชระบาดกับต้นกุหลาบ
แนะนำให้ใช้จุลินทรีย์กำจัดเพลี้ยและเชื้อรา ของอีเรฟไทย (erev) ขวดสีแดง ในการฉีดป้องกัน และกำจัดแมลงศัตรูพืชเป็นประจำ เพื่อลดปัญหาแมลงศัตรูพืชระบาดในการปลูกดอกกุหลาบ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยต่อคน เด็กเล็ก สัตว์เลี้ยง
อ่านเพิ่มเติม 5 โรคและศัตรูพืชในกุหลาบที่พบบ่อย
5. การให้น้ำกุหลาบ
- สำหรับการดูแลกุหลาบ ต้องให้น้ําทุกวันเพื่อรักษาระดับความชื้นในดิน แต่ควรหลีกเลี่ยงการให้น้ําในตอนกลางคืนเพื่อป้องกันโรคราทําลาย
- การให้น้ำแบบสปริงเกอร์ หรือน้ำหยด จะดีกว่าการใช้ฝักบัวหรือสายยางฉีดพ่น เพราะจะทำให้โครงสร้างของดินแน่น
6. ธาตุอาหารสำหรับกุหลาบ
- ควรตัดแต่งกิ่งอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะหลังฤดูออกดอก (ดอกร่วงโรย) เพื่อกระตุ้นการแตกกิ่ง แตกยอดใหม่ และรักษารูปทรงพุ่มที่สวยงาม
- วิธีการตัดแต่งที่ถูกต้องจะช่วยให้ต้นกุหลาบมีสุขภาพดีและออกดอกบานสะพรั่งตลอดทั้งปี
สรุปวิธีการดูแลกุหลาบ
นี่คือวิธีการดูแลกุหลาบสำหรับมือใหม่ หรือมือเก่าแล้ว ก็ยังจำเป็นต้องให้ความสําคัญกับปัจจัยเหล่านี้ในการปลูกกุหลาบ เพราะจะช่วยให้สวนกุหลาบอบอวล สดชื่น และมีความงดงามอยู่ตลอดเวลา
ต้นกุหลาบเป็นต้นไม้ที่สวยงาม แต่การปลูกและดูแล เรียกว่าเป็นต้นไม้ปราบเซียน เพราะเป็นที่โปรดปานของเหล่าบรรดาแมลงและศัตรูพืช ดังนั้น จึงต้องให้ความใส่ใจ ดูแลเป็นพิเศษทั้งในเรื่องของ ดินปลูก ธาตุอาหาร อากาศ แสงแดด การให้น้ำ การตัดแต่งกิ่ง และการกำจัดศัตรูพืช เป็นต้น
สนใจซื้อผลิตภัณฑ์สำหรับคนรักการปลูกต้นกุหลาบ คลิกที่นี่
เพิ่มเพื่อนทางไลน์ @erevthai