5 สาเหตุต้นไม้ใบเหลือง ใบไหม้ ใบร่วง และวิธีแก้ปัญหาที่ได้ผลดี

ต้นไม้ใบเหลือง

ปัญหาของผู้ที่ปลูกต้นไม้ส่วนใหญ่ที่ต้องเจอคงเป็นเรื่องต้นไม้ใบเหลือง ใบไหม้ ใบร่วง ใบบาง ซึ่งอาจจะแตกต่างกันบ้าง ขึ้นอยู่กับชนิดของต้นไม้ แต่สาเหตุและการแก้ปัญหาต้นไม้ใบเหลืองก็จะคล้ายๆกัน

ต้นไม้ใบเหลือง

สาเหตุต้นไม้ใบเหลืองเกิดจากอะไรบ้าง

5 สาเหตุที่ต้นไม้ใบเหลือง ไหม้ ใบบาง มักเกิดจากปัจจัยต่างๆ เหล่านี้

1. ขาดหรือได้รับธาตุอาหารมากเกินไป

สิ่งสำคัญที่ทำให้ต้นไม้ขาดธาตุอาหารนอกเหนือไปจากผู้ดูแลไม่ได้บำรุงปุ๋ย หรือธาตุอาหารเป็นเวลานานแล้ว สาเหตุหลักๆ มักเกิดจากโดนศัตรูพืชเล่นงาน เช่น เชื้อรา หรือเพลี้ย โดยเฉพาะพวกเพลี้ยเขาจะทำงานท่อน้ำเลี้ยงของพืช ทำให้พืชไม่สามารถลำเลียงอาหารจากรากไปสังเคราะห์แสงที่ใบได้ เลยส่งผลให้ ต้นไม้ใบเหลือง ใส่ปุ๋ยอะไรเข้าไปทางราก พืชก็ไม่สามารถนำไปใช้ได้ ซึ่งจะแนะนำการแก้ปัญหาอย่างละเอียดในข้อที่ 5

ข้อสังเกตของต้นไม้ใบเหลือง ขาดอะไร ธาตุอาหารหลัก ธาตุอาหารรอง หรือธาตุอาหารเสริม ลักษณะของใบที่เหลืองมักจะไม่เป็นรูพรุน ส่วนใหญ่ที่เป็นรู ไหม้ มักเกิดจากเพลี้ยระบาด

ส่วนการให้ปุ๋ยมากเกินไปนั้น มักจะมีลักษณะเฉาหลังจากให้ปุ๋ย 4-8 ชั่วโมงแรก และค่อยเหลือง ร่วง ในวันต่อๆมา

2. ปัญหาด้านดิน

ปัญหาของดินนั้นมักจะเกิดจากโครงสร้างของดิน ที่ระบายน้ำได้ไม่ดี ดินแข็ง ปัญหาตรงนี้เป็นผลพวงมาจากการรดน้ำคราวละมากๆเกินไป เมื่อดินแฉะ และแห้งในเวลาต่อมาดินก็จะแข็ง ซึ่งไม่เหมาะกับการเพาะปลูก

อีกสาเหตุที่ทำให้ดินเสียคือ การใช้สารเคมี เพราะสารเคมีเหล่านั้นจะไปทำลายจุลินทรีย์ดีในดิน หรือทำลายไส้เดือน เป็นต้น

3. แสงแดด

แสงแดดมีความจำเป็นต่อพืชเป็นอย่างมาก เพราะต้นไม้ พืชผัก สีเขียวทุกชนิดต้องการแสงแดดในการสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ ดังนั้น ผู้ดูแลต้นไม้ต้องเข้าใจนิสัยของต้นไม้แต่ละประเภทว่าต้องการแสงแดดมากน้อยที่เหมาะสมต่อวันเท่าใด เพราะหากได้รับมากหรือน้อยเกิดไปจะทำให้ต้นไม้ใบเหลืองได้

4. ปริมาณน้ำ

ต้นไม้ พืชผัก ส่วนใหญ่ต้องการน้ำในปริมาณที่เพียงพอ โดยให้สังเกตจากดินว่ามีความชื้นพอดี ไม่แห้ง หรือแฉะเกินไป เคล็ดลับของการรดน้ำคือ รดครั้งละน้อยๆแต่รดให้บ่อยเพียงพอที่จะรักษาความชื้นให้ต้นไม้

และบ่อยครั้งที่ต้นไม้ใบเหลือง หน้าฝน ควรงดการให้น้ำหลังฝนตก 1-2 วัน เพื่อไม่ให้ต้นไม้รับน้ำมากเกินไป ส่งผลให้โครงสร้างของดินเสียหายไปด้วย

5. โรคและแมลงศัตรูพืช

สาเหตุหลักที่ทำให้ต้นไม้ใบเหลือง ร่วง มักเกิดจากปัญหาเรื่องโรคและแมลงศัตรูพืชระบาด เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งถ้าอ่านและทำความเข้าใจข้อมูลด้านล่างนี้ ก็จะแก้ปัญหาได้ตรงจุด

ระบบท่อลำเลียงของพืช (Vascular Tissue System) ซึ่งทำหน้าที่ลำเลียงน้ำและธาตุอาหารจากรากขึ้นไปสู่ยังส่วนต่างๆของพืช เพื่อสังเคราะห์แสง (Photo Synthesis) สำหรับกิจกรรมที่จำเป็นของพืช เช่น การหายใจ การสืบพันธุ์ และการเจริญเติบโต เป็นต้น

เมื่อเพลี้ยระบาด ดูดน้ำเลี้ยง (น้ำหวาน) และทำลายระบบท่อลำเลียงในคราวเดียวกัน จึงทำให้ต้นไม้ขาดธาตุอาหาร โดยจะมีอาการใบเหลือง ใบร่วง มีรูพรุน หงิกงอ หรือต้นไม้ใบไหม้ สาเหตุส่วนใหญ่มักเกิดจากเพลี้ยระบาดนี่เอง

แมลงศัตรูพืช

การแก้ปัญหาต้นไม้ใบเหลืองแบบปลอดภัยและได้ผลดี

วิธีแก้ต้นไม้ใบเหลือง ที่ถูกต้องและได้ผลดี

การแก้ปัญหาควรทำการกำจัดเพลี้ย เชื้อรา ที่เป็นต้นเหตุโดยตรง ควบคู่ไปกับการให้ธาตุอาหารทางใบโดยตรง เพื่อฟื้นฟูต้นไม้ให้แข็งแรงไปพร้อมๆกัน ถึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดี

หากปลูกต้นไทรเกาหลี ก็สามารถเข้าไปอ่านบทความการกำจัดเพลี้ยและเชื้อราในต้นไทรเกาหลี ได้จากบทความก่อนหน้านี้

สาเหตุที่การแก้ปัญหาเรื่องต้นไม้ใบเหลืองโดยทั่วไปไม่ได้ผล นั่นเป็นเพราะความไม่เข้าใจ เมื่อพบว่าต้นไม้มีใบเหลือง ร่วง ก็รีบสรรหาปุ๋ย หรือธาตุอาหารต่างๆมาใส่ลงไปในดิน คิดว่าต้นไม้ขาดธาตุอาหาร แต่ต้นไม้ก็ยังอ่อนแอ มีอาการใบเหลือง ใบร่วง เหมือนเดิม นั่นเป็นเพราะว่าระบบท่อลำเลียงของพืชถูกทำลายเสียหาย จึงไม่สามารถลำเลียงน้ำ และแร่ธาตุต่างๆ ขึ้นไปสังเคราะห์แสงที่ใบได้

ตรงกันข้ามกับการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุและได้ผลดีด้วยผลิตภัณฑ์ของอีเรฟ ที่ผู้ใช้จริงได้ฟีดแบคเป็นเสียงเดียวว่า “ได้ผลดีมาก ต้นไม้กลับมาเขียวแน่นดังเดิม” ไม่ว่าจะเป็นต้นไทรเกาหลี ต้นโมก กุหลาบ กล้วยไม้ และต้นไม้อื่นๆ นั่นเป็นเพราะผลิตภัณฑ์ของอีเรฟช่วยแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุควบคู่ไปกับการฟื้นฟูให้ต้นไม้แข็งแรงในคราวเดียวกัน

ต้นไม้ใบเหลืองเกิดจากอะไร
ต้นไม้ใบเหลืองเกิดจากอะไร

ต้นไม้ใบเหลืองแก้ยังไง
ต้นไม้ใบเหลืองแก้ยังไง

เนื่องจากผลิตภัณฑ์ของอีเรฟแก้ปัญหาต้นไม้ใบเหลือง ใบร่วง ได้ผลเป็นอย่างดี จึงกลายเป็นกระแสไวรัล กระทู้แนะนำ บอกต่อถึงวิธีแก้ปัญหา ต้นไม้ใบเหลือง แก้ ยัง ไง pantip กันเลยทีเดียว


สนใจซื้อผลิตภัณฑ์สำหรับรั้วต้นไม้ คลิกที่นี่

เพิ่มเพื่อนทางไลน์ @erevthai

Rating: 5 out of 5.