รั้วต้นไม้สวยๆ ปลูกอะไรดี ไทรเกาหลี หรือต้นโมกราคาไม่แพง

ต้นโมก
Contents hide

ต้นไม้ (wrightia religiosa) ให้ความร่วมรื่น สวยงาม และมีประโยชน์มากมาย ที่อยู่คู่กับมนุษย์แบบธรรมชาติมายาวนาน แต่เนื่องจากในปัจจุบัน สภาพแวดล้อมต่างๆ ถูกทำลาย ให้กลายเป็นตึก เป็นอาคาร ทดแทนพื้นที่ป่าในรูปแบบเดิมๆ

การปลูกต้นไม้ทำรั้ว จึงกลายเป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน แต่ก็ยังมีคำถามจากผู้ที่เริ่มศึกษาว่าควรปลูกต้นอะไรดี ต้นอะไรปลูกแล้วโตไว ดูแลรักษาง่าย ฯลฯ

และต้นไทรเกาหลีเอง ก็ยอดฮิตนิยมปลูกทำรั้วต้นไม้กันมาก ซึ่งทางเราได้เขียนบทความเกี่ยวกับ ประโยชน์ของการปลูกต้นไทรเกาหลีไว้ใน รวมทุกคำถามเกี่ยวกับวิธีปลูกต้นไทรเกาหลี สามารถเข้าไปอ่านในรายละเอียดได้

รั้วต้นโมก

ทำไมต้องปลูกรั้วต้นไม้

การปลูกต้นไม้ทำรั้ว นอกจากจะสวยงาม ให้ร่มเงา ความเป็นส่วนตัว ป้องกันลมและฝนแล้ว ต้นไม้ยังช่วยปรับปรุงดินในพื้นที่ได้อย่างดีเยี่ยมเลย

นอกจากนี้ การปลูกรั้วรอบๆบ้าน ยังช่วยทำให้บ้านนั้นมีมูลค่าเพิ่มขึ้นได้อีกด้วย ยกตัวอย่างเวลาเราไปชมโครงการบ้านจัดสรร เพื่อเลือกซื้อบ้าน บ้านตัวอย่างก็จะตกแต่งสวน รั้ว ให้สวยงาม แทนที่จะเป็นบ้านเปลือยเปล่า และนี่คือเหตุผลว่าทำไมถึงควรปลูกต้นไม้เพื่อทำรั้ว :

  • ช่วยเพิ่มมูลค่าให้ทรัพย์สิน
  • รั้วต้นไม้ช่วยป้องกันความเสียหายจากลม
  • ป้องกันแสงแดด ลดความร้อน ลดต้นทุนด้านพลังงาน
  • ป้องกันความเสี่ยง สร้างความเป็นส่วนตัว
  • ช่วยกรองฝุ่น ควัน ฟอกอากาศ

1. ช่วยเพิ่มมูลค่าให้ทรัพย์สิน

การปลูกรั้วต้นไม้ หรือไม้พุ่มรอบๆ บ้าน มันก็จะคล้วยกับสนามหญ้าที่ได้รับการดูแลอย่างดี เมื่อคนเห็นก็จะชอบ สนามหญ้าที่ตัดหญ้าเป็นประจำ และมีแปลงดอกไม้รอบ ๆ ก็จะทำให้สถานที่นั้นดูดี มีมูลค่าเพิ่มขึ้นไปโดยอัตโนมัติ

ซึ่งเป็นการเพิ่มความน่าสนใจให้กับบ้าน มีเคสในต่างประเทศที่ได้สำรวจข้อมูลไว้โดย National Association of Realtors® พบว่าบ้านที่มีการจัดสวนที่สวยงาม จะขายได้เร็วกว่าและมีราคาสูงกว่าบ้านในลักษณะเดียวกัน แต่ไม่มีการจัดส่วนหรือทำรั้วต้นไม้ให้สวยงามเลย

2. รั้วต้นไม้ช่วยป้องกันความเสียหายจากลม

การมีรั้วป้องกันที่แข็งแรงและแน่นหนารอบๆบ้าน จะช่วยป้องกันแรงลมที่ปะทะเข้าตัวบ้านได้เป็นอย่างดี เมื่อลมพัดผ่านแนวพุ่มไม้ มันจะลดความเร็วลง ก่อนที่จะปะทะเข้าถึงตัวบ้าน

นั่นหมายถึงต้นไม้ช่วยความเสียหายต่อทรัพย์สินให้น้อยลง นอกจากนี้ รั้วต้นไม้ยังช่วยการป้องกันความเสี่ยงที่เกิดจากเศษไม้ หรือสิ่งของที่จะปลิวมาชนกับตัวบ้าน กรณีที่มีพายุหมุน หรือลมแรงเกิดขึ้น

3. ป้องกันแสงแดด ลดความร้อน ลดต้นทุนด้านพลังงาน

นอกจากการปกป้องบ้านขจากความเสียหายจากลมแล้ว ยังช่วยป้องกันแสงแดดที่ปะทะเข้าตัวบ้าน และช่วยกันความร้อนเข้าบ้านโดยตรง ทำให้ช่วยลดค่าไฟฟ้าจากเครื่องปรับอากาศได้ เนื่องจากต้นไม้และไม้พุ่มช่วยกันแสง และดูดซับความร้อน จึงสามารถลดความร้อนและเพิ่มความเย็นให้กับบ้านแบบธรรมชาติได้เป็นอย่างดี

4. ป้องกันความเสี่ยง สร้างความเป็นส่วนตัว

การปลูกต้นไม้ไว้ทำรั้ง เพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับคนในบ้าน และทรัพย์สิน ซึ่งเพื่อนบ้านส่วนใหญ่มักจะไม่รังเกียจ และเห็นดีเห็นงามด้วย เพราะได้ประโยชน์ทั้งความร่มรื่น สบายตา และยังเป็นแนวป้องกันความเสี่ยงจากทรัพย์สิน และความเป็นส่วนตัว ส่งผลให้เจ้าของบ้านสามารถเพลิดเพลิน และมีความเงียบสงบโดยไม่ต้องกังวลกับการถูกมองเห็นอีกต่อไป

5. ช่วยกรองฝุ่น ควัน ฟอกอากาศ

ต้นไม้ช่วยกรองมลพิษได้ เมื่อเวลาใบไม้เหล่านี้เคลื่อนไหว ปลิวไปพร้อมกับแรงลม มันจะดักจับอนุภาคละเอียดของฝุ่นที่ลอยอยู่ในอากาศ จึงทำหน้าที่ช่วยลดฝุ่น ควัน และฟอกอากาศบริเวณบ้านให้บริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ บ้านที่ติดริมถนนนั้น นอกจากจะมีฝุ่นแล้ว ควัน ไอเสีย มลพิษจากรถยนต์ ที่วิ่งไปมา ต้นไม้เหล่านี้ก็จะเป็นตัวช่วยกรอง หรือฟองอากาศให้บริสุทธิ์อีกด้วย

รั้วต้นไม้สวยๆ

ต้นไม้อะไรบ้างที่นิยมมาปลูกทำรั้ว

การปลูกต้นไม้เพื่อทำรั้ว นอกจากจะมีประโยชน์อื่นๆตามที่กล่าวแล้วก่อนหน้านี้ แล้วต้นอะไรบ้างที่นิยมนำมาปลูกทำรั้วต้นไม้โตเร็ว เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม ภูมิอากาศของบ้านเราบ้าง

  • ต้นไทร
  • ต้นโมก (wrightia religiosa)
  • ต้นชาฮกเกี้ยน
  • ต้นคริสตินา
  • ต้นชบา
  • ต้นไผ่เลี้ยง
  • ต้นแก้ว
รั้วต้นไม้

ต้นไทร

ต้นไทรเป็นพืชในสกุล Ficus ที่ต้องการแสงจัด ต้องน้ำไม่มากค่อนข้างทนแล้งได้ดีระดับหนึ่ง เหมาะกับสภาพอากาศของประเทศไทยเรา ที่มีสภาพร้อนชื้น ทำให้ต้นไทรเจริญเติบโตได้เร็ว ถ้าเทียบกับต้นไม้ประเภทอื่นๆ ต้นไทรที่นิยมปลูกนั้นมีหลากสายพันธุ์ เช่น ไทรเกาหลี ไทรอินโด ไทรอังกฤษ ไทรทอง เป็นต้น

นิยมนำมาทำรั้วต้นไม้ ตกแต่งสถานที่ โดยทำเป็นลักษณะทรงพุ่ม ซึ่งต้นไทรมีขนาดความสูงได้ 3-4 เมตร แต่ที่นิยมปลูกสำหรับทำรั้ว จะนิยมเลี้ยงให้สูง 2-3 เมตร เป็นส่วนใหญ่ (คลิกอ่านวิธีปลูกต้นไทรเกาหลี)

ต้นโมก

ต้นโมก (wrightia religiosa)

ต้นโมกเป็นไม้ผลัดใบ สูง 2-5 เมตร ทรงพุ่มแผ่กว้าง มีความแข็งแรง ทนแล้ง และดูแลง่ายกว่าต้นไม้ชนิดอื่น ปลูกได้กับดินเกือบทุกประเภท มีความทนทานต่อน้ำท่วมขังได้ดี ซึ่งเป็นอีกต้นไม้ที่ได้รับความนิยมนำมาทำรั้วสวยงาม มีใบที่เขียวสวย และดอกที่หอม ต้นโมกนั้นมีอยู่หลากหลายสายพันธุ์ เช่น โมกพวง โมกซ้อน โมกบ้าน แต่ที่นิยมปลุกทำรั้วต้นไม้ ได้แก่ โมกซ้อน เพราะมีใบหนา ไม่ค่อยผลัดใบ ดอกโมกส่งกลิ่นหอม ที่สำคัญต้นโมกราคาไม่ได้แพงมาก

ต้นชาฮกเกี้ยน

ต้นชาฮกเกี้ยน

ชาฮกเกี้ยน หรือที่นิยมเรียกอีกชื่อคือ ชาดัด เป็นไม้พุ่มที่มีขนาดเล็ก ไม่สูงมากนัก แตกกิ่งแตกก้านเป็นจำนวนมาก ใบเล็ก สากๆ ใบเรียงสลับกัน เป็นไม้พุ่มที่แน่นและทึบ มีความทนแล้งได้เป็นอย่างดี นิยมนำมาทำเป็นรั้วต้นไม้ที่ไม่สูงมากนัก และนำมาตกแต่งสวนเป็นรูปสัตว์ต่างๆ เป็นต้น

ต้นคริสติน่า

ต้นคริสติน่า

ต้นคริสติน่าเป็นต้นไม้ที่นิยมนำมาปลูก ทำรั้ว ใบอ่อนจะมีลักษณะสีออกส้มอมแดง ช่วยเพิ่มสีสันให้รั้ว และบ้านได้เป็นอย่างดี ต้นคริสติน่าค่อนข้างเลี้ยงง่าย โตเร็ว หมั่นตัดแต่งให้เป็นทรงพุ่มประจำ เพื่อให้แตกใบสีแดงส้มสวยงาม ชอบแดดจัด ถ้าหากแสงแดดน้อยใบจะไม่ค่อยแน่น 

ต้นชบา

ต้นชบา

ต้นชบาเป็นไม้ทรงพุ่มแน่น สูง 2-3 เมตร ดอกมีหลายสีสวยงาม อาทิ สีขาว สีแดง สีม่วง สีชมพู สีเหลือง สีส้ม และจะออกดอกตลอดทั้งปี ชอบดินร่วนซุย ที่ระบายน้ำดี มีแสงแดดเต็มวัน (ไม้ดอกส่วนใหญ่ จะชอบแสงแดดจัด) เนื่องจากชบาแตกกิ่งก้านหนาแน่ จึงนิยมนำมาปลูกเพื่อพรางสายตาได้เป็นอย่างดี

ต้นไผ่เลี้ยง

ต้นไผ่เลี้ยง

ต้นไผ่เลี้ยง เป็นต้นไม้ที่ไม่มีหนาม เห็นปล้องชัดเจน เนื้อไม้จะแข็ง มีสีเขียว ชอบแสงแดดจัด นิยมปลูกเป็นแนวรั้ว เพื่อบังสายตา และด้วยที่ต้นไผ่เลี้ยงมีลำต้นเล็กตรง จึงทำให้ดูสวยงาม เรียบง่าย ออกสไตล์มินิมอล หรือ แบบเซ็น

 

ต้นแก้ว

ต้นแก้ว

ต้นแก้วมีสีเขียวเข้ม ดอกแก้วสีขาว มีกลิ่นหอม และออกดอกตลอดทั้งปี นิยมปลูกต้นแก้วเพื่อตัดพุ่มตกแต่ง หรือใส่กระถาง หรือปลูกเป็นแนวรั้ว เพื่อความสวยงาม และมีกลิ่นหอมจากดอกตลอดทั้งปี

การดูแลรั้วต้นไม้

การดูแลรั้วต้นไม้ อาจจะแตกจากการปลูกต้นไม้ทั่วไปเล็กน้อย เนื่องจากจะต้องเลี้ยงเพื่อให้ได้ความสูงตามต้องการ จะต้องแตกกิ่งใบเขียวแน่น และต้นไม้เองจะต้องเป็นรูปทรงที่ชัดเจน เป็นต้น

การดูแลรดน้ำ

การรดน้ำต้นไม้ที่ถูกต้อง คือการรดน้ำเพื่อให้ดินมีความชื้นอยู่ แนะนำให้มีการรดครั้งละน้อยๆ และรดได้บ่อยๆ จะดีกว่าการรดน้ำครั้งเดียวแต่รดครั้งละมากๆ เพราะการรดน้ำทีเดียวเยอะๆนั้น จะทำให้โครงสร้างของดินเสียหาย กลายเป็นดินที่แข็ง ระบายน้ำได้ไม่ดี

กรณีที่เข้าสู่ฤดูฝน หากมีฝนตกต้องดรดน้ำอย่างน้อย 1-2 วันหลังวันที่ฝนตก เพื่อให้ต้นไม้มีความชุ่มชื้นที่พอดี ไม่แฉะจนเกินไป

การใส่ปุ๋ยหรือเติมธาตุอาหาร

การใส่ปุ๋ยนั้นควรตรวจสอบสภาพต้นไม้ และหมั่นเติมปุ๋ยอยู่เป็นประจำ แต่กรณีที่เป็นปุ๋ยอินทรีย์ แนะนำเป็นแบบผง เพราะจะช่วยปรับสภาพดินให้มีความร่วน ซุย ระบายอากาศและระบายน้ำได้ดี 

ส่วนถ้าเป็นปุ๋ยอินทรีย์ชนิดน้ำ แนะนำให้มีการฉีดพ่นทางใบ 1-2 สัปดาห์/ครั้ง เพื่อให้ใบมีสีสันสวยงาม ใบเขียวเข้ม และแตกดอกสวยงาม

การตัดแต่งต้นไม้

การตัดแต่งต้นไม้ แนะนำให้ตัดแต่งทุก 2-3 เดือน/ครั้ง เพื่อให้ต้นไม้มีรูปทรงสวยงาม และเร่งการแตกใบให้แน่นมากยิ่งขึ้น ในการตัดแต่งกิ่งใบนั้น ควรมีการตัดกิ่ง ใบ ให้เป็นแนวเสมอกัน ส่วนปลายยอดก็ไม่ค่อยปล่อย ต้องมีการตัดปลายยอดหากต้องการให้ใบตรงกลางลำต้นแตกใบแน่นๆ

สำหรับการตัดแต่งต้นไม้นั้น สามารถตัดแต่งได้ 3 วิธีด้วยกัน คือ

1.ตัดแต่งต้นไม้โดยกรรไกรตัดแต่งต้นไม้ ซึ่งวิธีการนี้ เป็นวิธีการที่ง่าย และประหยัด แต่ผู้ที่ตัดต้องมีความชำนาญระดับนึง ถึงจะตัดแต่งได้เป็นรูปทรงที่สวยงาม

2.ตัดแต่งต้นไม้โดยใช้เครื่องตัดแต่งกิ่ง ซึ่งจะมีทั้งแบบไฟฟ้า และเครื่องยนต์ ซึ่งการตัดแต่งแบบนี้ จะสามารถตัดแต่ได้รวดเร็ว แต่การใช้งานนั้นค่อนข้างจะลำบาก หนัก และถ้าต้นไม้ที่มีความสูงนั้นจำเป็นต้องใช้บันไดช่วย ถึงจะตัดแต่งกิ่งใบที่อยู่สูงๆ และยอดพุ่มได้

3.ตัดแต่งโดยเครื่องตัดข้าวดีด ซึ่งจะมีใบมีดคัดเตอร์เป็นตัวตัดกิ่งใบ ที่ยึดติดกับตัวมอเตอร์ขนาดเล็ก และมีด้ามจับขนาด 1 นิ้ว ที่มีความยาว 1.5-2.0 เมตร ทำให้การตัดแต่งต้นไม้ทำได้รวดเร็ว สะดวกกว่าการตัดแต่งแบบที่ 1 และ 2 

แต่การตัดแต่งต้นไม้ด้วยเครื่องตัดข้าวดีดนี้จะต้องสมเครื่องป้องกันอย่างดี เพราะใบมีดคัตเตอร์ค่อนข้างคม จึงต้องป้องกันและระมัดระวังเป็นพิเศษ

การป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืช

ในการป้องกันแมลงและศัตรูพืชนั้น ในทางที่ดีควรมีการป้องกันเป็นประจำ ดูกว่าการปล่อยให้เพลี้ย เชื้อรา หรือแมลงศัตรูพืชระบาด แล้วถึงไปแก้ไข เพราะจะทำให้ต้นไม้เสียหาย และสิ้นเปลืองเวลาและค่าใช้จ่ายในการกำจัดแมลงศัตรูพืช

ทางเราเองมักจะแนะนำให้มีการฉีดพ่นจุลินทรีย์กำจัดเพลี้ยและเชื้อรา ของยี่ห้ออีเรฟ (ขวดสีแดง) เป็นประจำทุกเดือน อาจจะสัปดาห์ละครั้ง หรือเดือนละครั้ง เพื่อป้องกันพวกเพลี้ย และเชื้อรา มาระบาดในพื้นที่

อื่นๆ

นอกเหนือจาก การรดน้ำ ใส่ปุ่ย ตัดแต่ง และการกำจัดแมลงศัตรูพืชแล้วนั้น การทำค้ำยันเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องหมั่นตรวจสอบ เพราะถ้าไม่มีค้ำยัน ต้นไม้ก็อาจจะสะเปะสปะ ไม่เป็นแนวแถวตรง เนื่องจากรั้วต้นไม้จะเป็นตัวรับแรงปะทะจากลมโดยตรง เพื่อไม่ให้เข้าถึงตัวบ้าน

ดังนั้น จึงควรมีการตรวจสอบ ไม้ค้ำยันต่างๆว่าอยู่ในสภาพที่ดีอยู่หรือไม่

ตัดแต่งต้นไม้

ระหว่างรั้วต้นไม้ไทรเกาหลี กับ ต้นโมก ปลูกอะไรดี

ในบทความนี้ จะเปรียบเทียบข้อดี ข้อเสีย ของการปลูกต้นไม้ทำรั้ว ระหว่างต้นไทรเกาหลี (หรือจะไทรอินโด ไทรอังกฤษก็แล้วแต่) กับต้นโมก นั้นมีอะไรบ้างที่ควรนำมาพิจารณา

1.รั้วต้นไม้ไทรเกาหลี

ถ้าต้องการปลูกรั้วต้นไม้ ที่สามารถพรางแสงได้ทึบ เขียวแน่นตลอดทั้งปี และความสูงในระดับ 2-3 เมตร ที่มีลำต้นที่แข็งแรง สวยงาม ต้านลมได้ดี แนะนำให้ปลูกต้นไทรเกาหลี เพราะสามารถตอบโจทย์ดังกล่าวข้างต้น ได้เป็นอย่างดี

สิ่งที่แนะนำสำหรับผู้ที่ปลูกต้นไทรเกาหลี คือ ให้หมั่นตัดแต่ง กิ่ง ก้าน ใบ ให้เข้ารูปทรง ทุกๆ 2-3 เดือน/ครั้ง เพื่อจะได้แตกใบให้เขียวแน่นตลอดทั้งปี

2.รั้วต้นโมก

ต้นโมกเป็นไม้ดอก ซึ่งต้องการแสงที่มากกว่าไทรเกาหลี หากต้องการปลูกเพื่อพรางแสงในระดับที่ต้นไม่สูงมากนัก โดยอาจจะสูงประมาณ 1-1.5 เมตร หรือปลูกเป็นแนวที่ด้านหลังเป็นกำแพง แบบนี้จะเหมาะสมกับต้นโมกมากกว่า เพราะกิ่งใบของต้นโมกจะไม่หนาแน่นเทียบเท่ากับต้นไทรเกาหลี

ต้นโมกราคา

ประกอบกับต้นโมกเป็นไม้ดอก ซึ่งย่อมต้องการแสงแดดจัด และดอกของต้นโมกเองที่มักจะมีเพลี้ย หรือแมลงศัตรูพืชชอบมาดูดน้ำเลี้ยงอยู่เป็นประจำ ดังนั้น ถ้าปลูกต้นโมก ก็ต้องหมั่นฉีดป้องกันเพลี้ย และแมลงศัตรูพืชเป็นประจำ

สำหรับต้นโมก ข้อเสียหากดูแลไม่ดี ใบจะน้อย เหลือแต่กิ่ง อาจจะไม่สวยงาม และพรางตาได้ไม่ดีเท่ากับต้นไทรเกาหลี ซึ่งรูปด้านล่าง เป็นการเปรียบเทียบให้เห็นภาพระหว่างรั้วต้นไม้ไทรเกาหลีกับต้นโมก ก็ลองพิจารณาว่าจะปลูกต้นอะไรดี

ต้นโมกและต้นไทรเกาหลี

ทั้งนี้ หากชื่นชอบทั้งต้นไทรเกาหลี และต้นโมก ก็สามารถปลูกผสมระหว่างต้นไม้สองชนิดนี้ได้ เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณ เพราะต้นโมกเอง เมื่อเทียบกับต้นไทรเกาหลี ราคาจะถูกกว่าเล็กน้อย

โดยให้พิจารณาจากระดับความสูง ซึ่งบริเวณที่ต้องการต้นไม้สูง ก็ให้ปลูกต้นไทรเกาหลี ส่วนพื้นที่ที่เตี้ยมาหน่อย ก็ปลูกต้นโมก หรือพื้นที่ที่มีกำแพงเป็นฉากหลัง แต่ต้องการลดความแข็งของผนังกำแพงด้วยต้นไม้ ก็ให้ลงต้นโมกได้ 

ต้นชาดัด

สรุป

การปลูกรั้วต้นไม้นั้น นอกจากจะให้ความร่มรื่น มีความสวยงาม พรางแสง กันลม กันฝุ่น และช่วยพรางสายตาแล้ว ยังมีประโยชน์เชิงมูลค่าเพิ่มให้กับสถานที่ได้อีกด้วย ซึ่งต้นไม้ที่นิยมนำมาปลูกทำรั้วต้นไม้ก็มีหลากหลาย แต่ที่นิยมปลูกกันมากๆ ก็จะเป็นต้นไทรเกาหลี กับต้นโมก 

ซึ่งในบทความนี้ได้สรุปข้อดี ข้อเสียของต้นไม้ 2 ชนิด เพื่อเป็นข้อพิจารณาในการเลือกต้นไม้มาปลูกทำรั้วได้อย่างเหมาะสม และคงพอจะตัดสินใจได้แล้วว่าต้นไม้ ดอกไม้ริมรั้วปลูกอะไรดี


สนใจซื้อผลิตภัณฑ์สำหรับรั้วต้นไม้ คลิกที่นี่

เพิ่มเพื่อนทางไลน์ @erevthai

Rating: 5 out of 5.