Healthy
ประโยชน์ของกัญชา 65 ข้อ มีสรรพคุณทางการแพทย์อะไรบ้าง?
ประโยชน์ของกัญชานั้นถูกใช้เป็นยารักษาโรคมานับพันปี ถูกบันทึกไว้เป็นอย่างดี ในตำราโบราณ แต่เมื่อไม่นานมานี้เองที่วิทยาศาสตร์เริ่มศึกษาเป็นทางการ จังทำให้มีการรู้จักกันดีในเรื่องคุณสมบัติ ช่วยบรรเทาอาการปวด โดยมาจากสาเหตุหลัก คือ THC ซึ่งเป็นสารสกัด Cannabis สำคัญที่อยู่ในกัญชา (สารสกัด Cannabis)
ข้อมูลกัญชาทางการแพทย์
กัญชาทางการแพทย์ถูกนำมาใช้ในการรักษาโรคครั้งแรกโดยชนพื้นเมืองอเมริกัน และต่อมาโดยผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยุโรป
วันนี้กัญชาทางการแพทย์ถูกกฎหมายใน 29 รัฐ และ Washington DC
กัญชาทางการแพทย์มีสองประเภทหลัก:
• กัญชา Sativa มีระดับ THC สูงกว่า CBD
• กัญชา Indica มีระดับ CBD ที่สูงกว่า THC
ทั้ง 2 สายพันธุ์มีสารแคนนาบินอยด์ ซึ่งมีสารประกอบทางเคมีที่พบในพืชกัญชา (Cannabinoid) ที่พบมากที่สุดคือ tetrahydrocannabinol (THC)
กัญชามีสารสำคัญอะไรบ้าง?
กัญชามีสารแคนนาบินอยด์มากกว่า 60 ชนิด ซึ่งรวมถึง THC (tetrahydrocannabinol) และ CBD (cannabidiol) สารประกอบทั้ง 2 นี้ เป็นสารสำคัญที่มีอยู่ในดอก และใบของกัญชา
นอกจากนี้ยังมีสารอื่นอีกหลาย 10 ชนิด ที่เรียกว่าเทอร์พีน ซึ่งแต่ละสายพันธุ์นั้น จะมีกลิ่นหอมที่แตกต่าง เฉพาะตัว
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลือกสายพันธุ์กัญชาคลิกที่ลิงค์ด้านล่างนี้
“2 สายพันธุ์กัญชา เลือกอะไรดี Photoperiod หรือ Autoflowering”
สาร CBD & THC ในกัญชาแตกต่างกันอย่างไร?
แม้ว่าสารแคนนาบินอยด์ทั้ง 2 ชนิดนี้ จะเข้ากันดีกับร่างกายมนุษย์ แต่ THC นั้นออกฤทธิ์ทางจิตมากกว่า CBD
THC ออกฤทธิ์โดยการกระตุ้นตัวรับ cannabinoid CB1 และ CB2 ซึ่งอยู่ทั่วระบบประสาทส่วนกลางและระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
งานวิจัยต่างๆชี้ให้เห็นว่า CBD แม้จะกระตุ้นตัวรับเดียวกันกับ THC แต่ CBD นั้นจะไม่มีผลข้างเคียงหรือออกฤทธิ์ทางจิตเหมือนกับสาร THC
ความแตกต่างที่สำคัญที่สุดระหว่าง CBD และ THC คือ CBD แม้ไม่มีสารสำคัญเหมือนกับ THC แต่ทั้ง CBD และ THC ก็มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคต่างๆ เช่นกัน แต่ CBD ไม่ถือว่าเป็นสิ่งมึนเมา ดังนั้นจึงไม่มีข้อจำกัดทางกฎหมายเหมือนกับ THC
- CBD นำไปใช้เพื่อประสิทธิภาพในการรักษาสภาวะต่างๆ รวมถึงความวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า การนอนไม่หลับ การอักเสบ มะเร็ง และความผิดปกติของภูมิต้านทานผิดปกติ นอกจากนี้ยังอาจช่วยลดอาการที่เกี่ยวข้องกับโรคเรื้อรัง เช่น โรคพาร์กินสัน โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง โรคอัลไซเมอร์ โรคเบาหวาน โรคไฟโบรมัยอัลเจีย โรคโครห์น และโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
- ส่วน THC นำไปใช้เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจมายาวนานหลายศตวรรษ และในปัจจุบันยังถือว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมายในหลายๆประเทศ เนื่องจากมีคุณสมบัติออกฤทธิ์ทางจิตประสาท องค์ประกอบที่ออกฤทธิ์หลักของ THC คือ delta-9 tetrahydrocannabinol (Δ9-THC) ซึ่งจับกับตัวรับ CB1 ในสมองของมนุษย์
- เทอร์ปีน (Terpenes) แบ่งออกเป็นสองกลุ่มตามโครงสร้างทางเคมี ได้แก่ monoterpenes และ sesquiterpenes Monoterpenes ประกอบด้วยอะตอมของคาร์บอนและไฮโดรเจนเท่านั้น และได้มาจากเจอรานิล ไพโรฟอสเฟต Sesquiterpenes มีอะตอมของออกซิเจนเพิ่มเติมและได้มาจาก farnesyl pyrophosphate เทอร์พีนทั้ง 2 ชนิด ถูกสังเคราะห์ผ่านวิถีทางกรดเมวาโลนิก
ประโยชน์ของกัญชาทางการแพทย์ (medical cannabis)
สารสกัด Cannabis ถูกนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ (Medicinal cannabis) อย่างแพร่หลาย อย่างไรก็ตาม การบริโภคกัญชายังมีแง่บวกอื่นๆ นอกเหนือจากคุณสมบัติทางยา ตัวอย่างเช่น มีการแสดงว่า cannabidiol อาจช่วยลดความวิตกกังวล ความเครียด ความซึมเศร้า โรคเครียดหลังบาดแผล และการนอนไม่หลับ
เป็นเวลาหลายศตวรรษ ที่มนุษย์ใช้กัญชาเพื่อคุณค่าทางการรักษา อย่างไรก็ตาม วิทยาศาสตร์สมัยใหม่กำลังเริ่มค้นพบว่าสมุนไพรธรรมชาตินี้มีประโยชน์จริงๆ เพียงใด
THC ย่อมาจาก Tetrahydrocannabinol ซึ่งเป็นสารสำคัญทำให้กัญชามีคุณสมบัติในการบำบัดทางจิต จริงๆ แล้ว Tetrahydrocannabinol เป็น cannabinoid ทำหน้าที่เกี่ยวกับระบบ endocannabinoid ซึ่งเป็นเครือข่ายโครงสร้างที่ซับซ้อนในการรับรู้ไปทั่วทั้งร่างกาย
Endocannabinoids เป็นสารประกอบที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในร่างกายมนุษย์ พวกมันมีปฏิสัมพันธ์กับตัวรับเหล่านี้ (CB-1 & CB-2) และให้ผลที่คล้ายคลึงกันกับสารที่ผลิตโดยกัญชา
ระบบ endocannabinoid มีบทบาทในการควบคุมการทำงานทางสรีรวิทยาหลายอย่าง รวมถึงการรับรู้ความเจ็บปวด อารมณ์ ความอยากอาหาร ความจำ ทักษะอื่นๆ การทำงานของภูมิคุ้มกัน ภาวะเจริญพันธุ์ การควบคุมการนอนหลับ สุขภาพหัวใจและหลอดเลือด และความสมดุลของการเผาผลาญ
นอกจาก THC แล้ว ยังมี Cannabidiol (CBD) กว่า 60 ชนิด เป็น cannabinoid ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติซึ่งมีอยู่ในกัญชาและกัญชง สารประกอบเหล่านี้ส่วนใหญ่สามารถพบได้ในต่อมเรซินของดอกเพศเมีย
ปัจจุบันกัญชาถูกนำมาใช้ที่หลากหลายวิธี เช่น
- ใช้ในการสูบเช่นเดียวกับบุหรี่
- ใช้สูบแบบบ้องกัญชาเพื่อผ่อนคลาย
- การใช้น้ำมันกัญชาสกัด
- ใช้สารระเหยจากกัญชา
- นำมาเป็นส่วนผสมในการปรุงเป็นอาหาร เพิ่มรสชาติ
- นำมาทำเป็นแผ่นแปะผิวหนัง
กัญชาออกฤทธิ์ต่อร่างกายอย่างไร ?
สารประกอบออกฤทธิ์ในกัญชาแสดงให้เห็นว่ามีปฏิสัมพันธ์กับระบบ endocannabinoid (ECS) ซึ่งเป็นเครือข่ายที่ซับซ้อนซึ่งควบคุมการทำงานทางสรีรวิทยาหลายอย่าง ECS ประกอบด้วยตัวรับ cannabinoid, ลิแกนด์ภายในร่างกาย และเอนไซม์ที่รับผิดชอบในการสังเคราะห์ และการย่อยสลาย Cannabinoids จับกับตัวรับโปรตีนควบคู่ G ที่เรียกว่า CB1 และ CB2 ตัวรับเหล่านี้ตั้งอยู่ทั่วระบบประสาทส่วนกลาง อวัยวะส่วนปลาย เซลล์ภูมิคุ้มกัน และอวัยวะสืบพันธุ์ cannabinoids ที่เกิดภายในร่างกาย ได้แก่ anandamide, 2-arachidonoylglycerol, palmitoylethanolamide, oleamide และ N-arachidonoyldopamine
Cannabidiol (CBD) เป็น cannabinoid ที่มีมากเป็นอันดับ 2 ในร่างกายมนุษย์รองจาก delta9-tetrahydrocannabinol (THC) แต่ CBD ไม่ออกฤทธิ์ทางจิตประสาท อย่างไรก็ตาม CBD สามารถเพิ่มการดูดซึมของ THC ซึ่งอาจส่งผลทางจิตประสาทได้ โดยทั่วไปแล้ว CBD นั้นสามารถทนต่อยาได้ดีและปลอดภัยแม้ในปริมาณที่สูง
ปฏิกิริยาจากการใช้กัญชาต่อร่างกายมนุษย์ นั้นอาจแตกต่างกันอย่างมาก ขึ้นอยู่กับปริมาณมากน้อย และมีสารอื่นๆ ที่ผสมลงในกัญชาด้วยหรือไม่ ผลข้างเคียงบางอย่างที่พบบ่อย ได้แก่ ความวิตกกังวล ความหวาดระแวง อาการตื่นตระหนก ปากแห้ง อาการวิงเวียนศีรษะ อาการง่วงซึม ความจำเสื่อม และอาการประสาทหลอน อาการเหล่านี้มักจะหายไปหลังจากผ่านไปประมาณ 30 นาที ผลข้างเคียงอื่นๆ อาจใช้เวลานานขึ้น และรวมถึงการเปลี่ยนแปลงของอัตราการเต้นของหัวใจ ความดันโลหิต และการหายใจ เป็นต้น
ประโยชน์ของกัญชาทางการแพทย์ 15 ข้อ
กัญชาโดยเฉพาะน้ำมันกัญชา สรรพคุณนั้นมีมากมาย ส่งผลดีต่อสุขภาพ รักษาโรคต่างๆ อาทิ
1. บรรเทาอาการปวด
สารแคนนาบินอยด์ เช่น THC และ CBD ได้แสดงให้เห็นสัญญาณที่ดีในการรักษาอาการปวด พวกมันทำงานได้ดีที่สุดสำหรับอาการปวดเรื้อรัง แต่ก็มีประโยชน์สำหรับอาการปวดเฉียบพลันเช่นกัน
ระบบ endocannabinoid มีบทบาทในการควบคุมการตอบสนองต่อความเจ็บปวด มีตัวรับเฉพาะที่อยู่ในสมองและไขสันหลังที่โต้ตอบกับ cannabinoids เพื่อสร้างยาแก้ปวด เมื่อตัวรับเหล่านี้ถูกกระตุ้น พวกมันจะส่งสัญญาณไปยังระบบประสาทส่วนกลางเพื่อยับยั้งข้อความแสดงความเจ็บปวด จากการศึกษาแสดงให้เห็นว่าน้ำมัน CBD อาจทำงานได้ดีกว่า opioids ในการลดอาการปวดเรื้อรัง
2. คุณสมบัติต้านการอักเสบ
การอักเสบมีบทบาทสำคัญในโรคและเงื่อนไขต่างๆ Cannabinoids มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ซึ่งหมายความว่าสามารถลดอาการบวมและอักเสบได้ ซึ่งจะทำให้รู้สึกไม่สบายน้อยลง
3. สารต้านอนุมูลอิสระ
ความเครียดที่เกิดจากออกซิเดชันเชื่อมโยงกับความเจ็บป่วยและสภาวะต่างๆ สารประกอบ Cannabinoid มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ สารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้ปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ อนุมูลอิสระทำให้เกิดความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน
4. การสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกัน
Cannabinoids มีคุณสมบัติสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกัน พวกเขาสามารถช่วยให้ร่างกายของคุณต่อสู้กับการติดเชื้อ และเพิ่มภูมิคุ้มกันโดยรวมของคุณ
5. คลื่นไส้/อาเจียน
การใช้กัญชาเพื่อบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียนมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ มีรายงานว่ามีการใช้กัญชารักษาอาการแพ้ท้อง อาการคลื่นไส้ที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์ และอาการคลื่นไส้ที่เกิดจากเคมีบำบัด จากการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา พบว่าผู้หญิงที่สูบกัญชาก่อนเข้ารับการผ่าตัดจะมีอาการคลื่นไส้หลังผ่าตัดน้อยกว่าผู้หญิงที่ไม่สูบกัญชา
6. ต้อหิน
โรคต้อหินเป็นภาวะที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อเส้นประสาทตาและทำให้สูญเสียการมองเห็น การศึกษาล่าสุดชี้ให้เห็นว่า cannabinoids อาจช่วยป้องกันความเสียหายประเภทนี้ได้ Cannabinoids อาจทำงานโดยการลดความดันในลูกตา (IOP) ในดวงตา นี้สามารถป้องกันความเสียหายเพิ่มเติมต่อเส้นประสาทตา
7. โรคลมบ้าหมู
ในต้นกัญชามีสารแคนนาบินอยด์มากกว่า 50 ชนิด แต่สารแคนนาบิดิออล (CBD) คือสิ่งที่ทำให้คนมีปริมาณสูงขึ้น CBD ช่วยลดอาการชักในเด็กที่เป็นโรคลมบ้าหมู ผลการศึกษาพบว่าผู้ป่วยโรคลมบ้าหมูที่ดื้อการรักษามีความถี่ในการชักลดลงอย่างมีนัยสำคัญหลังจากใช้ CBD อาจเป็นเพราะความสามารถของ CBD ในการปิดกั้นตัวรับบางอย่างในสมองที่กระตุ้นการทำงานของโรคลมชัก
8. ลดความเครียด
ระบบ endocannabinoid (ECS) มีหน้าที่ควบคุมระดับความเครียดในร่างกายของเรา ระบบนี้ทำงานโดยการสื่อสารกับระบบประสาทผ่านสารเคมีที่เรียกว่า cannabinoids ตัวรับ cannabinoid ภายนอกนั้นตั้งอยู่ทั่วร่างกายของคุณซึ่งมีปฏิสัมพันธ์กับ cannabinoids ที่ผลิตขึ้นตามธรรมชาติภายในร่างกายของคุณ เมื่อสารแคนนาบินอยด์ตามธรรมชาติเหล่านี้จับกับบริเวณตัวรับ พวกมันจะสร้างผลผ่อนคลายภายในร่างกายของคุณ โดยการปิดกั้นผลกระทบของฮอร์โมนความเครียด CBD ช่วยลดความวิตกกังวลและปรับปรุงอารมณ์
9. ช่วยให้นอนหลับ
นอกจากบทบาทในการจัดการความเครียดแล้ว CBD ยังได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการรักษาอาการนอนไม่หลับ การวิจัยแสดงให้เห็นว่า CBD ช่วยเพิ่มคุณภาพการนอนหลับและลดอาการมึนงงในเวลากลางวัน
10. คุณสมบัติป้องกันระบบประสาท
ระบบ endocannabinoid มีบทบาทในการป้องกันระบบประสาท Cannabinoids เช่น THC และ CBD ช่วยป้องกันเซลล์ประสาทตาย
11. กัญชาช่วยรักษาภาวะซึมเศร้า
อาการซึมเศร้าส่งผลกระทบต่อผู้ใหญ่ชาวอเมริกันเกือบ 20 เปอร์เซ็นต์ตามข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค คาดว่าผู้ป่วยโรคซึมเศร้าถึงครึ่งหนึ่งไม่ได้รับการรักษา
นอกจากยาแก้ซึมเศร้าแบบเดิมๆ หลายคนยังหันมาใช้กัญชาเพื่อรักษาอาการซึมเศร้า การศึกษาแสดงให้เห็นว่า CBD ซึ่งเป็นหนึ่งในสารประกอบหลักในกัญชา อาจช่วยบรรเทาอาการซึมเศร้าได้
12. กัญชาบรรเทาความวิตกกังวล
สถาบันสุขภาพจิตแห่งชาติระบุว่า โรควิตกกังวลส่งผลกระทบต่อชาวอเมริกันประมาณ 40 ล้านคน หลายคนหันไปใช้ยาตามใบสั่งแพทย์เพื่อรักษาความวิตกกังวล แต่ก็มีทางเลือกจากธรรมชาติด้วยเช่นกัน กัญชาช่วยบรรเทาอาการที่เกี่ยวข้องกับโรควิตกกังวล เช่น โรคแพนิค โรคกลัวสังคม โรคย้ำคิดย้ำทำ และโรควิตกกังวลทั่วไป
13. กัญชาอาจช่วยเพิ่มความจำ
การลดลงของหน่วยความจำเป็นเรื่องปกติในผู้สูงอายุ ผลการศึกษาล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสาร Neurobiology of Aging พบว่าผู้สูงอายุที่ทาน cannabidiol (ส่วนประกอบที่ไม่ออกฤทธิ์ทางจิตของกัญชา) มีความจำดีกว่าผู้ที่ไม่ได้ทานอาหารเสริม
นักวิจัยเชื่อว่าอาจเป็นเพราะความสามารถของ cannabidiol ในการเพิ่มระดับของ anandamide ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่มีบทบาทในการเรียนรู้และความจำ
14. สามารถช่วยบำบัดผู้ที่เป็นจิตเภท (PTSD)
โรคจิตเภท (PTSD) เกิดจากเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจ เช่น สงคราม การข่มขืน การล่วงละเมิด ภัยธรรมชาติ และอุบัติเหตุ ผู้ที่เป็นโรค PTSD มักพบกับเหตุการณ์ย้อนหลังและฝันร้าย พวกเขาอาจมีอาการนอนไม่หลับ หงุดหงิดง่าย และโกรธเคือง จากการศึกษาพบว่ากัญชาสามารถช่วยรักษาโรค PTSD ได้
15. อาจเป็นประโยชน์สำหรับโรคอัลไซเมอร์
โรคอัลไซเมอร์เป็นโรคทางระบบประสาทที่ก้าวหน้าซึ่งส่งผลต่อความจำและทักษะการคิด โดยปกติจะเริ่มช้า และแย่ลงเมื่อเวลาผ่านไป นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า กัญชาอาจชะลอการลุกลามของโรคอัลไซเมอร์ได้ แต่ทั้งนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษาทดลองอยู่
กัญชาลดความเสี่ยงมะเร็งได้อย่างไร?
อันที่จริง กัญชาเป็นหนึ่งในยาตัวแรกที่ใช้รักษามะเร็ง ซึ่งค้นพบใน 2700 ปีก่อนคริสตกาลในประเทศจีน กัญชาประกอบด้วยสารเคมีที่ทราบกันดีว่าสามารถฆ่าเซลล์มะเร็ง และสามารถช่วยป้องกันมิให้แพร่กระจายไปทั่วร่างกาย สารแคนนาบินอยด์อย่าง THC และ CBD ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าสามารถรักษามะเร็งได้หลายประเภท รวมถึงเนื้องอกในสมอง มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ มะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งผิวหนัง และมะเร็งกระเพาะอาหาร
ที่สมาคมโรคมะเร็งอเมริกัน (American Cancer Society) ระบุ มะเร็งเป็นสาเหตุการตายอันดับสองในสหรัฐอเมริกาในปัจจุบัน แม้ว่าวิวัฒนาการในการรักษาจะมีความก้าวหน้ากว่าเดิมมาก แต่การรักษาก็มักมีผลข้างเคียงจากการรักษาแบบเดิมๆ Cannabinoids จึงเป็นตัวเลือกที่ดีในการรักษามะเร็งในรูปแบบต่างๆ พวกมันทำงานโดยกระตุ้นตัวรับ cannabinoid ของร่างกายในขณะเดียวกันก็ยับยั้งเอนไซม์ที่ผลิตสารที่เกี่ยวข้องกับการเติบโตของเนื้องอก
กัญชาประกอบด้วยสารแคนนาบินอยด์ สารเคมีที่ทำปฏิกิริยากับตัวรับในร่างกายมนุษย์ ตัวรับเหล่านี้พบได้ในเซลล์ทั่วร่างกาย โดยเฉพาะในระบบภูมิคุ้มกัน ระบบประสาท และอวัยวะสืบพันธุ์
ตัวรับ cannabinoid มีสองประเภทหลัก: CB1 และ CB2 สารแคนนาบินอยด์จับกับตัวรับเหล่านี้ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการทำงานของเซลล์ สารแคนนาบินอยด์บางชนิดกระตุ้นตัวรับประเภทหนึ่ง ในขณะที่บางชนิดกระตุ้นตัวรับชนิดอื่น
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบว่าสารแคนนาบินอยด์บางชนิดอาจยับยั้งการเติบโตของเนื้องอก พวกเขายังพบว่า cannabinoids สามารถกระตุ้นการผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาว ซึ่งต่อสู้กับการติดเชื้อ
นักวิจัยเชื่อว่า cannabinoids อาจมีบทบาทสำคัญในการป้องกันมะเร็ง
กัญชาสามารถช่วยป้องกันมะเร็งได้ ดังนี้
1. กัญชาช่วยป้องกันมะเร็งเต้านมได้
มะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งที่พบได้บ่อยที่สุดในผู้หญิงอเมริกัน ตามที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ประมาณ 1 ใน 8 ผู้หญิงจะเป็นมะเร็งเต้านมในช่วงชีวิตของเธอ
การวิจัยแสดงให้เห็นว่า THC ซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ในกัญชา ยับยั้งการเติบโตของเนื้องอกในเต้านม ผลกระทบนี้พบครั้งแรกในหนูทดลอง
การศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Clinical Oncology พบว่า THC ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านมในหลอดทดลอง นักวิจัยสรุปว่า THC อาจมีประโยชน์ในการรักษาผู้ป่วยมะเร็งเต้านม
การศึกษาอื่น ๆ ชี้ให้เห็นว่า THC อาจชะลอการลุกลามของมะเร็งเต้านม การศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่า THC ชะลอการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งเต้านมในหนูทดลอง การศึกษาอื่นพบว่า THC ลดขนาดของเนื้องอกในเต้านมในหนู
หลักฐานจนถึงปัจจุบันบ่งชี้ว่า THC สามารถป้องกันมะเร็งเต้านมได้ แต่ยังมีงานวิจัยอีกมากที่ต้องทำก่อนที่เราจะรู้ว่าการป้องกันนี้ครอบคลุมถึงมนุษย์หรือไม่
2. กัญชาอาจลดความเสี่ยงมะเร็งต่อมลูกหมาก
มะเร็งต่อมลูกหมากเป็นสาเหตุอันดับสองของการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งในผู้ชาย เกิดขึ้นเมื่อเซลล์ต่อมลูกหมากผิดปกติและเริ่มแบ่งตัวอย่างควบคุมไม่ได้
จากการศึกษาพบว่า THC ช่วยลดอัตราการแบ่งเซลล์มะเร็งต่อมลูกหมาก นอกจากนี้ THC ยังช่วยกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งต่อมลูกหมาก
THC อาจป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมากด้วยการลดการอักเสบ การอักเสบทำให้เกิดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อที่แข็งแรงและก่อให้เกิดโรคต่างๆ
การอักเสบมีบทบาทสำคัญในการพัฒนามะเร็งต่อมลูกหมาก การศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Urology พบว่า THC ลดการอักเสบในต่อมลูกหมาก
นี่แสดงให้เห็นว่า THC อาจป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมากได้โดยลดการอักเสบ อย่างไรก็ตาม ยังอาจจะเร็วเกินไปที่จะบอกว่า THC สามารถป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมากในมนุษย์ได้หรือไม่
3. กัญชาอาจป้องกันมะเร็งปอด
มะเร็งปอดเป็นฆาตกรอันดับหนึ่งของทั้งชายและหญิงในสหรัฐอเมริกา ในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจากมะเร็งปอดประมาณ 160,000 คน
การศึกษาบางชิ้นระบุว่า THC อาจป้องกันมะเร็งปอดได้ นักวิจัยจากคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย-ซานดิเอโก ศึกษาผลกระทบของ THC ต่อเซลล์มะเร็งปอดในหลอดทดลอง พวกเขาพบว่า THC ทำให้เซลล์มะเร็งปอดได้รับการตายของเซลล์ (การฆ่าตัวตายของเซลล์) การตายของเซลล์เป็นกระบวนการปกติที่ฆ่าเซลล์ที่เสียหายหรือไม่ต้องการ
การศึกษาอื่นพบว่า THC กระตุ้นการผลิตโปรตีนในเซลล์เม็ดเลือดขาวที่เรียกว่าไซโตไคน์ ไซโตไคน์เป็นโมเลกุลที่ผลิตโดยเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ควบคุมการตอบสนองของภูมิคุ้มกัน
สรุปประโยชน์ของกัญชา 65 อย่าง
จากที่ทาง organicslife ได้ทำการค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับประโยชน์ของกัญชา ทั้งในต่างประเทศ และในประเทศไทย จึงพอสรุปว่ากัญชามีสรรพคุณต่างๆมากมาย ดังนี้
• Cannabinoids มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ
• อาจช่วยบรรเทาอาการของโรคข้ออักเสบ ไฟโบรมัยอัลเจีย โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง
• อาจช่วยบรรเทาอาการของโรคโครห์น
• อาจปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ
• อาจบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียนที่เกิดจากเคมีบำบัด
• อาจลดอาการกระตุกของกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง
• อาจรักษาโรคต้อหินและไมเกรน
• อาจมีประโยชน์ในการรักษาพล็อต
• อาจบรรเทาอาการของโรคลมบ้าหมู
• อาจส่งเสริมความอยากอาหาร
• อาจป้องกันโรคเกี่ยวกับระบบประสาท เช่น อัลไซเมอร์และพาร์กินสัน
• อาจป้องกันการสูญเสียความจำ
• อาจชะลอความบกพร่องทางสติปัญญา
• อาจลดอาการชักได้
• อาจบรรเทาอาการของโรคจิตเภทได้
• อาจบรรเทาอาการของกลุ่มอาการทูเร็ตต์
• อาจยับยั้งการเติบโตของเนื้องอก
• อาจกระตุ้นการเจริญเติบโตของกระดูก
• สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของยาบางชนิดได้
• อาจเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ
• อาจเพิ่มการเจริญพันธุ์
• อาจทำหน้าที่เป็นยากล่อมประสาท
• อาจปิดกั้นผลกระทบของแอลกอฮอล์
• ช่วยระงับความหิว
• อาจช่วยควบคุมอารมณ์
• อาจสงบจากความวิตกกังวล
• อาจก่อให้เกิดความอิ่มเอิบใจ
• อาจช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
• อาจช่วยต่อสู้กับโรคความเครียด
• อาจต่อสู้กับโรคมะเร็ง
• อาจฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้
• อาจเพิ่มภูมิคุ้มกัน
• อาจลดน้ำตาลในเลือด
• อาจหยุดผมร่วงได้
• สามารถใช้รักษาสิวได้
• อาจรักษาอาการปวดหัวได้
• อาจบรรเทาการระคายเคืองของผิวหนัง
• อาจช่วยรักษาบาดแผล
• อาจช่วยลดการอักเสบ
• อาจเสริมสร้างกระดูก
• อาจช่วยทำให้เนื้องอกหดตัว
• อาจขจัดริ้วรอย
• อาจทำความสะอาดตับ
• อาจล้างพิษในร่างกาย
• อาจปรับสมดุลฮอร์โมน
• อาจช่วยในการย่อยอาหาร
• อาจเร่งการรักษา
• อาจควบคุมการเสพติด
• อาจควบคุมโรคเบาหวาน
• อาจเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด
• อาจช่วยยืดอายุขัย
• อาจช่วยป้องกันหัวใจวาย
• อาจทำให้สมองแข็งแรง
• อาจบรรเทาจากภาวะซึมเศร้า
• อาจช่วยในการบรรเทาอาการปวด
• อาจสร้างความรู้สึกเป็นอยู่ที่ดี
• อาจสร้างความรู้สึกสงบ
• สิ่งเหล่านี้อาจนำมาซึ่งความผ่อนคลาย
• อาจส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์
• อาจทำให้ผู้คนมีความสุขมากขึ้น
• อาจทำให้นอนหลับได้ดีขึ้น
• พวกเขาอาจอนุญาตให้ผู้คนกินอาหารเพื่อสุขภาพ
• อาจช่วยให้ผู้คนออกกำลังกายได้ง่ายขึ้น
• อาจช่วยให้อายุยืนยาวขึ้น
• กัญชามีผลข้างเคียงน้อยกว่ายาที่ต้องสั่งโดยแพทย์
สรุปท้ายบทความ
ด้วยหลักฐานมากมายที่สนับสนุนว่า กัญชามีประโยชน์ทางการแพทย์อย่างมากมาย ไม่มีเหตุผลใดที่จะปฏิเสธการใช้กัญชาเพื่อประโยชน์ด้านสุขภาพ
แต่ทั้งนี้ ผลเสียหรือข้อควรระวัง อาจเกิดจากปริมาณการใช้ ก็มีอยู่มากมายเช่นเดียวกัน ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกัญชาก่อนตัดสินใจ
ด้วยความปรารถนาดีจาก organicslife
สนใจซื้อผลิตภัณฑ์สำหรับกัญชา คลิกที่นี่
เพิ่มเพื่อนทางไลน์ @erevthai
