BPL Postbiotics มีฤทธิ์ยับยั้งโควิดได้ดีกว่า Favipiravir ฟ้าทะลายโจร และกระชายขาว ที่สำคัญยังไม่มีผลข้างเคียงหรือสารเคมีตกค้าง เพราะผลิตจากจุลินทรีย์ธรรมชาติ รายละเอียดปรากฎตามใบรับรองผลการวิเคราะห์ฯ ภาควิชาเคมี ม.เกษตรศาสตร์
ผลการวิเคราะห์ Postbiotics ยับยั้งโควิดดีกว่า Favipiravir ฟ้าทะลายโจร และกระชายขาว
ผลการทดสอบฤทธิ์การยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ RdRp (SARS-CoV-2) ในหลอดทดลอง
บริการวิชาการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เลขที่ 00734/64
ตัวอย่างที่ใช้ในการทดสอบ
1. Favipiravir
2. BPL/BEN
3. Andrographis paniculata (Burm.f.) Wall ex Nees. (ฟ้าทะลายโจร)
4. Boesenbergia rotunda (L.) Mansf. (กระชายขาว)
5. BPL/BEN + A. paniculata (ฟ้าทะลายโจร)
6. BPL/BEN + B. rotunda (กระชายขาว)
วิธีการทดลอง Postbiotics ยับยั้งโควิดดีกว่า Favipiravir ฟ้าทะลายโจร และกระชายขาว
การศึกษาฤทธิ์การยับยั้งของสารตัวอย่างที่สนใจกับโปรตีน SARS-CoV-2 RNA-dependent RNA Polymerase (RdRp) โดยใช้ชุดทดสอบ RdRp (SARS-CoV-2) Homogeneous assay kit (BPS Bioscience : #78109) โดยในการทดสอบความสามารถในการยับยั้งการทำงานของโปรตีน RdRp (SARS-CoV-2 นั้นทดสอบโดยใช้สารตัวอย่างที่สนใจที่ความเข้มข้น 50 และ 100 μg/ml เทียบกับยา Favipiravir ที่ความเข้มข้นเดียวกัน ทำปฏิกิริยากับเอนไซม์ RdRp (RdRp/NSP7/NSP8 (SARS-CoV-2) Complex) ที่ความเข้ม 24 ng/μl ทำใน 384-well flat white plate โดยเติมเอนไซม์ลงในหลุมปริมาตร 4 μl ตามด้วย RNAse inhibitor ปริมาตร 2 μl และสารตัวอย่างอีก 2 μl บ่มในเครื่องเขย่าที่อุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 30 นาที จากนั้นเติม RdRp reaction mixture ซึ่งประกอบด้วย Digoxigenin-labeled RNA duplex และ Biotinylated ATP ในอัตราส่วน 1:1 ปริมาตร 2 μl เพื่อเป็นการเริ่มต้นการเกิดปฏิกิริยา สำหรับ blank จะไม่เติมเอนไซม์ และ positive control จะไม่เติมสารตัวอย่าง เพื่อดูการเกิดปฏิกิริยา บ่มในเครื่องเขย่าที่อุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 60 นาที เมื่อครบเวลาเติม AlphaLISA Anti-Digoxigenin acceptor beads (PerkinElmer : #AL113C) ปริมาตร 10 μl บ่มในเครื่องเขย่าที่อุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 30 นาที จากนั้นเติม Streptavidin-conjugated donor beads (PerkinElmer : #6760002S) ปริมาตร 10 μl บ่มในเครื่องเขย่าที่อุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 30-60 นาที เม่อื ครบเวลาทำการวดั ความสามารถในการทำงานของเอนไซม์ โดยใช้เทคนิค AlphaLISA ซึ่งอ่านค่าเป็นค่า Alpha-counts โดยตั้งค่าการกระตุ้นและการปลดปล่อยที่ 680/615 นาโนเมตร และคำนวณหาเปอร์เซ็นความสามารถในการยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ RdRpโดยในสมการ
%Relative inhibition = [(Positive control − Blank) − (Positive control − Sample)] x 100
[(Positive control − Blank)]
ผลการทดลองและอภิปรายผลการทดลอง
จากการศึกษาความสามารถในการยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ RdRp (SARS-CoV-2) ของสารตัวอย่างที่ความเข้มข้น50 μg/ml เทียบกับยา Favipiravir ที่ความเข้มข้นเดียวกันพบว่า BPL/BEN นั้นมีค่าการยับยั้งกิจกรรมของเอนไซม์สูงที่สุดอยู่ที่ร้อยละ 47.23 ในขณะที่ความเข้มข้น100 μg/ml มีค่าการยับยั้งกิจกรรมของเอนไซม์ อยู่ที่ร้อยละ 83.09 (รูปที่1 และ ตารางที่1) ในขณะที่ตัวอย่างอื่นๆมีค่าการยับยั้งกิจกรรมของเอนไซม์ที่ใกล้เคียงกันอยู่ในช่วงร้อยละ 12 ถึ ง26 แสดงดังตารางที่ 1 จากงานวิจัยก่อนหน้านี้รายงานว่ายา Favipiravir สามารถยับยั้งกิจกรรมของเอนไซม์เป้าหมาย RdRp (SARS-CoV-2) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ในทางตรงข้ามจากผลการทดลองในครั้งนี้พบว่ายา Favipiravir นั้นแสดงค่าการยับยั้งกิจกรรมของเอนไซม์ ค่อนข้างต่ำเนื่องจากยา Favipiravir มี คุณสมบัติเป็น prodrug ซึ่งเป็นยาที่ไม่สามารถออกฤทธิ์ ได้ด้วยตัวมันเอง สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพเมื่อเข้าสู่ร่างกาย และผ่านกระบวนการทาง เคมีที่เรียกว่า Metabolize เพื่อเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเคมีของยาส่งผลให้ยามีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้พบว่า BPL/BEN ที่ทดสอบร่วมกับตัวอย่างอื่นๆ คือ ยา Favipiravir A. paniculata และ B. rotunda แสดงค่าการยับยั้งกิจกรรมของเอนไซม์ที่ลดลงเมื่อเทียบกับการทดสอบด้วย BPL/BEN เพียงชนิดเดียว เนื่องจาก BPL/BEN เมื่อรวมกับตัวอย่างอื่นในอัตราส่วน 1:1 ส่งผลให้ความเข้มข้นของสารดังกล่าวลดลงครึ่งหนึ่ง จึงทำให้ค่าการยับยั้งกิจกรรมของเอนไซม์ลดลงด้วย
รูปที่ 1 กราฟแสดงเปอร์เซ็นความสามารถในการยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ RdRp (SARS-CoV-2) หลังทำการทดสอบกับสารตัวอย่างที่ความเข้มข้น 50 และ 100 μg/ml
***หมายเหตุ Favipiravir อยู่ในรูปแบบของโปร-ดรัก(prodrug) จะทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพถ้าไม่ถูกกระบวนการเมตาบอลิซึมเผาผลาญในเซลล์เปลี่ยนรูปแบบที่ออกฤทธิ์ คือ Favipiravir-ribofuranosyl-5′- triphosphate (Favipiravir-RTP)
ตารางที่ 1 ตารางแสดงเปอร์เซ็นความสามารถในการยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ RdRp (SARS-CoV-2) หลังทำการทดสอบกับสารตัวอย่างที่ความเข้มข้น 50 และ 100 μg/ml
สรุปผลการทดลอง
การศึกษาความสามารถในการยับยั้งกิจกรรมของเอนไซม์ RdRp (SARS-CoV-2) ของสารตัวอย่างที่ความเข้มข้น 50 และ 100 μg/ml เทียบกับยา Favipiravir (prodrug form) พบว่า BPL/BEN แสดงค่าการยับยั้งกิจกรรมของเอนไซม์สูงที่สุด ในขณะที่ตัวอย่าง อื่นๆ เช่น Favipiravir, ฟ้าทะลายโจร และกระชายขาว มีค่าการยับยั้งกิจกรรมของเอนไซม์ที่ใกล้เคียงกัน
ใบรับรองผลการวิเคราะห์ ภาควิชาเคมี ม.เกษตรศาสตร์
ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ Postbiotics
BPL Postbiotics คืออะไร
BPL คือ ผลิตภัณฑ์โพสต์ไบโอติกส์ชนิดแคปซูล ในรูปอาหารเสริมธรรมชาติที่ทำจาก Probiotics ผสมสมุนไพร มีคุณสมบัติครอบคลุมทั้งการยับยั้งไวรัสและฟื้นฟูอาการป่วยช่วงติดเชื้อและภาวะเรื้อรังหลังติดเชื้อ (Long Covid)
คุณสมบัติ BPL Postbiotics
- ยับยั้งการเพิ่มจำนวนของไวรัส
- กระตุ้นภูมิคุ้มกัน
- ลดการอักเสบ
- สร้างสมดุลในระบบภูมิเพื่อป้องกันภูมิทำลายเซลล์ปกติ
- กระตุ้นระบบเผาผลาญเพื่อสร้างพลังงาน
- ระบบภูมิ ระบบซ่อมแซม ระบบสมดุล
- กำจัดสารพิษ ของเสีย (Detox)
- ฟื้นฟูร่างกาย
คำถามที่พบบ่อย
ทำไม BPL Postbitotics ถึงสามารถยับยั้งการเพิ่มจำนวนของไวรัสได้ ?
เพราะ BPL มีเอ็นไซม์ที่ผลิตได้ในเซลล์ (ไม่สามารถผลิตได้ด้วยกรรมวิธีทางเคมี) ได้แก่ Rdrp Inhibitor และ Reverse Transcriptase Inhibitor ซึ่งทำหน้าที่ไปยับยั้งการเพิ่มจำนวนของไวรัส และยับยั้งการรวมตัวของไวรัสไปเป็น DNA ที่สร้าง RNA ไวรัสใหม่
ระยะเวลาฟื้นฟูผู้ป่วยด้วย BPL Postbiotics ใช้เวลานานแค่ไหน ?
จากผลทดลองเชิงประจักษ์ของผู้ป่วยติดเชื้อและภาวะ Long Covid ทั่วโลก ได้ผลสรุปในเบื้องต้น ดังนี้
– ติดเชื้อแสดงอาการ 3-5 วัน
– ติดเชื้อลงปอด 7-15 วัน
– ภาวะป่วยขั้นวิกฤติ 16-25 วัน
– ภาวะ Long Covid 26-35 วัน
BPL Postbiotics หากรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานาน จะมีผลเสียต่อตับไหม ?
จากผลการทดสอบโดยภาควิชาเคมี ม.เกษตรศาสตร์ ด้วยการวัดค่า Liver Cell (HepG2 Test) และผลวิจัยเชิงประจักษ์จากผู้ที่มีภาวะป่วยติดเชื้อ พบว่า BPL ไม่มีผลเสียต่อตับ
BPL Postbiotics สามารถลดการอักเสบ และมีความปลอดภัยต่อเซลล์หรือไม่ ?
จากผลการทดสอบโดยภาควิชาเคมี ม.เกษตรศาสตร์ วัดปริมาณสารที่กระตุ้นการอักเสบคือ Nitric Oxide จากกระตุ้น Macrophage Cell Line (RAW264.7) พบว่า BPL Postbiotics ลดการอักเสบได้ดีมาก และไม่ส่งผลอันตรายต่อเซลล์ โดยเทียบแบคทีเรีย -LPS และผลิตภัณฑ์อื่นๆ
คนปกติที่ไม่ป่วยหรือไม่ติดเชื้อ สามารถรับประทานได้ไหม ?
สามารถรับประทานได้ แต่ไม่มีผลในเชิงป้องกัน โดยหลังรับประทานจะทำให้กระปรี้กระเปร่า สดชื่น หลับลึก ระบบขับถ่ายดี หากมีภููมิแพ้ เป็นหวัดก่อนหน้า จะค่อยๆทุเลาและหายไปหากใช้ต่อเนื่อง
มีคำแนะนำเกี่ยวกับการรับประทานให้ครบโดส ในแต่ระยะของการติดเชื้ออย่างไร ?
เพื่อให้เห็นผลแนะนำให้รับประทานต่อเนื่อง ดังนี้
– ติดเชื้อไม่แสดงอาการ 2 ขวด
– ติดเชื้อแสดงอาการ 3 ขวด
– ภาวะติดเชื้อลงปอด 4 ขวด
– ภาวะป่วยขั้นวิกฤติ 4-5 ขวด
– Long Covid 4-5 ขวด/เดือน
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ Postbitics เพิ่มเติม
หรือสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ BPL Postbiotics ได้ที่นี่
หากสนใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ สามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็ป อีเรฟไทย https://www.erevthai.com